บทบาทของญาติในการดูแลผู้ป่วยทางจิต
ผู้ป่วยทางจิต อย่าคิดผลักใส ควรมีน้ำใจ ห่วงใยเยียวยา
ในการรักษาผู้ป่วยทางจิต ครอบครัวมีความสำคัญมากในการช่วยดูแลผู้ป่วย ให้ความเข้าใจและเห็นใจผู้ป่วยไม่ซ้ำเติมอาการหรือแสดงความรังเกียจ และควรแสดงความเห็นใจในความทุกข์ที่ผู้ป่วยได้รับ
บทบาทของญาติในการดูแลผู้ป่วย
บทบาทสำคัญของญาติได้แก่ การช่วยป้องกันการกำเริบของโรค ทั้งนี้เพราะโรคจิตเป็นโรคที่ต้องการเวลายาวนานในการรักษา และเป็นโรคที่มีโอกาสกำเริบสูงซึ่งอาจเกิดจากการขาดยา ผู้ป่วยมีความเครียด หรือขาดการดูแลเอาใจใส่จากญาติ การป้องกันการกำเริบของโรคทำได้ดังต่อไปนี้
- 1. ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ป่วยดูแลตนเอง ผู้ป่วยทางจิตอาจมีอาการแยกตัวจากสังคม เฉยชา ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ทำงาน ไม่มีการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองซึ่งอาจจะทำให้ญาติเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยขี้เกียจและทำให้ญาติไม่สนใจผู้ป่วย ซึ่งญาติต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออกนั้นเป็นอาการของโรค ญาติต้องช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน เช่น มอบมายให้ล้างถ้วยชาม กวาดบ้าน ถูบ้าน ฯลฯ และส่งเสริมให้ทำงานมีอาชีพ มีรายได้ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ต่อไป
- 2. คอยสังเกตอาการกำเริบของผู้ป่วย ผู้ป่วยอาจมีอาการกำเริบขึ้นมาได้อีก โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ขาดการรักษา ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยเริ่มมีอาการกำเริบของโรคขึ้นมาคือ มีอาการนอนไม่หลับ หรือนอนตลอดเวลา พูดคนเดียว ประสาทหลอน หูแว่ว ซึมแยกตัว พูดน้อยลงหรือมากขึ้น หรือมีอาการกำเริบเนื่องจากเกิดเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ ญาติควรจะสังเกตอาการของผู้ป่วยอยู่เสมอ เพื่อจะได้นำผู้ป่วยมารักษาได้ทันห่วงที และจะได้ให้ข้อมูลกับแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
- 3. ช่วยลดความเครียดให้ผู้ป่วย ความเครียดบางอย่างอาจเป็นปัญหากับผู้ป่วยในช่วงที่กำลังจะดีขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากกายในจิตใจหรือจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งญาติสามารถลดความเครียดของผู้ป่วยได้
- 3.1 ปรับเปลี่ยนความคาดหวังในตัวผู้ป่วยให้เหมาะสมตามระดับความสามารถของผู้ป่วย พยายามค้นหาในสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ และช่วยให้ผู้ป่วยทำสิ่งต่างๆ ตามความสามารถ พูดกับผู้ป่วยสั้นๆให้ได้ใจความ อย่าเปลี่ยนแปลงตารางเวลาต่างๆ ถ้าไม่จำเป็นและรักษาสัญญาที่ให้กับผู้ป่วย
- 3.2 หลีกเลี่ยงการทะเลาะหรือพูดล้อเลียนผู้ป่วย
- 3.3 ลดความตึงเครียดของตัวญาติเอง โดยหาเวลาพักผ่อนส่วนตัว เมื่อญาติมีความเครียดน้อยลงจะมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยเครียดน้อยลงไปด้วย
- 4. ค้นหาจุดดีและสนับสนุนแม้จะเป็นจุดเล็กๆที่ผู้ป่วยจะดีขึ้น สนับสนุนผู้ป่วยให้ค่อยๆปรับตัวโดยไม่เร่งรัด ญาติอาจชมเชยให้กำลังใจ เช่น ผู้ป่วยอาบน้ำเอง ทักทายสวัสดีกับคนอื่นจุดเล็กๆเหล่านี้จะรวมเป็นจุดใหญ่ให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น
- 5. อย่าลืมนัดและดูแลผู้ป่วยเรื่องการรับยา เนื่องจากโรคจิตต้องการระยะเวลาที่นานพอสมควรในการรักษา ตลอดจนการกลับเป็นซ้ำหรือการกำเริบของโรคก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การรับยาอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ควรให้ผู้ป่วยขาดยาและควรดูแลผู้ป่วยให้ได้รับยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- 6. เมื่อญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยรู้สึกเครียด หรือพบปัญหาในการดูแลผู้ป่วย ท่านสามารถปรึกษาได้ที่ สถานพยาบาลส่งเสริมสุขภาพใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์ปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลสวนปรุง บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง